วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2557

ทะเลเกลือ Salar de Uyuni (Bolivia)



สถานที่มหัศจรรย์ ที่ไม่น่าเชื่อว่า มีอยู่จริงบนโลกใบนี้




"บนโลกของเรายังมีสถานที่ที่น่าพิศวงอีกมากมายที่น่าท่องเที่ยว น่าค้นหาและนี้คือ หลายๆ สถานที่ ที่มหัศจรรย์ที่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริงบนโลกใบนี้"



Salar de Uyuni (Bolivia)







เป็นทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีพื้นที่ถึง 10,582 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโบลิเวีย ใกล้ยอดของเทือกเขาแอนดีส และมีความสูง 3,656 เมตร (11,995 ฟุต) หรือระดับน้ำทะเลเฉลี่ย เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยคราบเกลือที่หลงเหลือมานานตั้งแต่ยุคก่อนประวัติ ศาสตร์






ทำให้พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วย หินเกลือและยิปซัม และแร่ลิเธียม (มีมากกว่า 70% ของปริมาณแร่ลิเธียมของทั้งโลกที่ยังไม่ได้สกัด) มีการประมาณว่ามันบรรจุไว้ด้วยเกลือกว่า 10 ล้านล้านตัน มีเกลือมากจนกระทั้งกลายเป็นชั้นดินที่สามารถทำให้คนหรือรถ เดินทางลงได้อย่างสบาย นอกจากทัศนียภาพที่แปลกตาจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว มันยังใช้ประโยชน์มากมาย หนึ่งในนั้นคือมันเหมาะมากในการถูกนำไปใช้ประโยชน์ ในการตรวจสอบ และปรับแก้การวัดค่าความสูงของดาวเทียม
เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้กว้างใหญ่ พื้นผิวราบเรียบเป็นพิเศษ อีกทั้งท้องฟ้าที่ค่อนข้างเปิด ความชื้นต่ำ นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่สำคัญ ทางเศรษฐกิจของโบลิเวียเพราะแร่ลิเธียม (ใช้ทำแบตเตอรี่ไฟฟ้า) เหมือนแร่ และยังเป็นแหล่งของพืชและสัตว์แปลกๆ มากมาย (ภาพใหญ่ข้างบนปรากฏการสะท้อนแสง




ริแชทแห่งมอริเตเนีย The Richat Structure (Mauritania)



สถานที่มหัศจรรย์ ที่ไม่น่าเชื่อว่า มีอยู่จริงบนโลกใบนี้




"บนโลกของเรายังมีสถานที่ที่น่าพิศวงอีกมากมายที่น่าท่องเที่ยว น่าค้นหาและนี้คือ หลายๆ สถานที่ ที่มหัศจรรย์ที่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริงบนโลกใบนี้"


The Richat Structure (Mauritania)





ริแชทแห่งมอริเตเนีย (เป็นประเทศในแอฟริกาตะวันตกเฉียงเหนือ) เป็นภูมิประเทศประหลาดในทะเลทรายซาทาร่าของมอริทาเนีย ได้รับความสนใจจากทั่วโลก









โลกแห่งน้ำแข็งยักษ์ Eisriesenwelt Ice Caves (Austria)


สถานที่มหัศจรรย์ ที่ไม่น่าเชื่อว่า มีอยู่จริงบนโลกใบนี้




"บนโลกของเรายังมีสถานที่ที่น่าพิศวงอีกมากมายที่น่าท่องเที่ยว น่าค้นหาและนี้คือ หลายๆ สถานที่ ที่มหัศจรรย์ที่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริงบนโลกใบนี้"



Eisriesenwelt Ice Caves (Austria)





ถ้ำน้ำแข็งไอส์รีเซนเวลต์ (Eisriesenwelt Ice Caves) ในภาษาเยอรมันหมายถึง “โลกแห่งน้ำแข็งยักษ์” เป็นถ้ำน้ำแข็ง หินปูน ธรรมชาติขนาดใหญ่ของประเทศออสเตรีย (เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์) ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับเมืองซาล์สเบิร์ก เป็นถ้ำน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดโลกเท่าที่มนุษย์ค้นพบในปัจจุบัน







โดยถ้ำแห่งนี้ค้นพบครั้งแรกในปี 1879 ที่สมัยนั้นคนในท้องถิ่น รู้จักมันในฐานะทางเข้าสู่นรกและไม่กล้าที่จะเข้าไปข้างใน ลักษณะข้างในถ้ำเป็นเหมือนภูเขาที่อยู่ในถ้ำและจะมีน้ำแข็งเกาะ หินงอก เต็มไปหมด เสมือนกับว่าคุณอยู่ในโลกต่างมิติยังไงอย่างงั้น จนไม่เชื่อว่านี้คือฝีมือของธรรมชาติ ถ้ำแห่งนี้มีความลึกถึง 42 กิโลเมตร (แต่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมแค่กิโลเมตรแรก)
โดยถ้ำนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวชมตั้งแต่ 1 พฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมของทุกปี โดยเปิด 9.00 น.-16.30 น. ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป แต่กระนั้นก็มีนักท่องเที่ยวกว่า 200,000 คนต่อปีมายังสถานที่แห่งนี้







หุบเขาโลกพระจันทร์ Vale da Lua



      สถานที่มหัศจรรย์ ที่ไม่น่าเชื่อว่า มีอยู่จริงบนโลกใบนี้




"บนโลกของเรายังมีสถานที่ที่น่าพิศวงอีกมากมายที่น่าท่องเที่ยว น่าค้นหาและนี้คือ หลายๆ สถานที่ ที่มหัศจรรย์ที่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริงบนโลกใบนี้"




Vale da Lua




หุบเขาโลกพระจันทร์ เป็นที่ราบสูงโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1.8 พันล้านปี อยู่ห่างจากเมือง Alto Paraíso de Goiás ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศบราซิลไปประมาณ 38 กิโลเมตร






เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Chapada dos Veadeiros โดยพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยหินรูปร่างประหลาดแปลกตามากมาย ทำให้ดูเหมือนผิวพื้นดวงจันทร์อย่างใดอย่างงั้น




ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องมาจากการกัดเซาะของแม่น้ำ San Miguel แทรกอยู่ภายใน ซึ่งองค์การยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2001 และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวอยากมาชมมากที่สุดในชีวิต 




ถ้ำเอลลิสัน (Ellison's Cave)


สถานที่มหัศจรรย์ ที่ไม่น่าเชื่อว่า มีอยู่จริงบนโลกใบนี้




"บนโลกของเรายังมีสถานที่ที่น่าพิศวงอีกมากมายที่น่าท่องเที่ยว น่าค้นหาและนี้คือ หลายๆ สถานที่ ที่มหัศจรรย์ที่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริงบนโลกใบนี้"


Ellison's Cave



"ถ้ำเอลลิสัน" รัฐจอร์เจีย,ประเทศสหรัฐอเมริกา 


 "ถ้ำเอลลิสัน" (Ellison's Cave) คือถ้ำที่เกิดจากหลุมยุบในวอล์คเกอร์ เคาน์ตี้ (Walker County) ในเขตรัฐจอร์เจีย รัฐที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา โดยถ้ำนั้นอยู่ในเทือกเขาพีเจ้น (Pigeon Mountain) เป็นถ้ำที่ลึกที่สุดใน 12 ถ้ำใต้ดินของประเทศสหรัฐอเมริกา ในบางช่วงเวลาจะมีน้ำตกไหลลงมาจาด้านบนสุดของถ้ำอีกด้วย 





    ถ้ำเอลลิสัน เป็นถ้ำที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกิจกรรมการปีนเขาด้วยเชือกเส้นเดียวนั้นได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ สำหรับการเที่ยวชมถ้ำนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี









แกรนด์ แคนยอน (The Grand Canyon State)


สถานที่มหัศจรรย์ ที่ไม่น่าเชื่อว่า มีอยู่จริงบนโลกใบนี้




"บนโลกของเรายังมีสถานที่ที่น่าพิศวงอีกมากมายที่น่าท่องเที่ยว น่าค้นหาและนี้คือ หลายๆ สถานที่ ที่มหัศจรรย์ที่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริงบนโลกใบนี้"

 

  The Grand Canyon State

 

มลรัฐแอริโซนา (Arizona) อีกหนึ่งมลรัฐที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ทางตะวันตก เฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา (United States) โดยมีเมืองฟินิกซ์ (Phoenix) เป็นเมืองหลวงมลรัฐ ภูมิประเทศส่วนใหญ่ภายในรัฐมีลักษณะ เป็นทะเลทราย ปัจจุบันมลรัฐแอริโซนาเป็นรัฐที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศ  


แกรนด์แคนยอน 

แกรนด์แคนยอน (The Grand Canyon State) สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงอุทยานแห่งชาติ (Grand Canyon National Park) ของมลรัฐแอริโซนา ปัจจุบันแกรนด์แคนยอนได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่สำคัญ และเป็นสัญลักษณ์และชื่อเล่นของมลรัฐนี้อีกด้วย 



     แกรนด์แคนยอน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล อันประกอบด้วยหุบเขาสูงและลึก ประมาณ 1,800 เมตร ชั้นหินสูงและมีแม่น้ำโคโลราโด (Colorado River ) ไหลผ่านที่ราบสูงทำให้เกิดการสึกกร่อน พังทะลายของหินเป็นเวลา 225 ล้านปีมาแล้ว โดยผู้ที่ค้นพบแกรนด์แคนยอน คือ พันตรีจอร์น เวสลีย์ เพาเวลล์และคณะเมื่อปี ค.ศ. 1869 


แกรนด์แคนยอน

นอกจากนี้ เมื่อหลายพันปีมาแล้ว แกรนด์แคนยอน ยังเคยเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวพื้นเมืองอเมริกัน (Native Americans) ที่เคยอาศัยอยู่ในหุบเขาลึกและถ้ำจำนวนมาก หลังจากนั้นก็มีการเดินทางมาตั้งถิ่นฐานและการสำรวจจากบุคคลภายนอกเพิ่มมาก ขึ้น อาทิเช่น กลุ่มนักสำรวจชาวสเปน , กลุ่มนักสำรวจชาวอเมริกัน และอื่นๆ 



       สำหรับการท่องเที่ยวในแกรนด์แคนยอนนั้น นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้ชื่นชมความงดงามของความมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยา รอบๆพื้นที่แกรนด์แคนยอน ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้ไม่ต่ำกว่าห้าล้านคนต่อปี โดยกิจกรรมท่องเที่ยวหลักที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือ การล่องแพ , เดินป่า ,ตั้งแคมป์ และอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก


แกรนด์แคนยอน

นอกจากนี้แล้ว แกรนด์แคนยอน ยังมีอาคารประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่รายรอบจำนวนหลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็ล้วนแล้วแต่มีความพิเศษเฉพาะตัว โดยที่แรกที่คุณจะต้องไม่พลาดไปเยือน คือ หอสังเกตุการณ์ทะเลทราย (Desert View Watchtower) เป็นอาคารหินสูง 70 ฟุต (21 เมตร) ถูกสร้างขึ้นในปี 1904 แล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 1932 ภายในหอคอยมีจิตรกรรมฝาผนังที่น่าสนใจจำนวนหลายภาพ 


แกรนด์แคนยอน

นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ ซึ่งรอคุณมาเป็นจำนวนมาก ถ้าหากคุณมีโอกาสมาเยือนแกรนด์แคนยอน แนะนำว่าคุณต้องไม่พลาดมาเยือนสักครั้งหนึ่ง...

 

 

สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า Bermuda Triangle


สถานที่มหัศจรรย์ ที่ไม่น่าเชื่อว่า มีอยู่จริงบนโลกใบนี้




"บนโลกของเรายังมีสถานที่ที่น่าพิศวงอีกมากมายที่น่าท่องเที่ยว น่าค้นหาและนี้คือ หลายๆ สถานที่ ที่มหัศจรรย์ที่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริงบนโลกใบนี้"



Bermuda Triangle




สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาหรืออาจรู้จักกันในชื่อ สามเหลี่ยมปีศาจ เป็นพื้นที่สมมุติทางตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือซึ่งมีการอ้างว่าอากาศยานและเรือผิวน้ำจำนวนหนึ่งหายสาบสูญไปโดยหาสาเหตุมิได้ในบริเวณดังกล่าว วัฒนธรรมสมัยนิยมได้ให้เหตุผลของการหายสาบสูญว่าเป็นเรื่องของปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติหรือกิจกรรมของสิ่งมีชีวิตนอกโลก




ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ระหว่าง ไมอามี่ เปอร์โตริโก และเกาะเบอร์มิวดาในกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ถือเป็นเส้นทางเดินเรือที่คึกคักที่สุดในโลก



Aurora Borealis ปรากฎการณ์แสงเหนือแสงใต้


สถานที่มหัศจรรย์ ที่ไม่น่าเชื่อว่า มีอยู่จริงบนโลกใบนี้




"บนโลกของเรายังมีสถานที่ที่น่าพิศวงอีกมากมายที่น่าท่องเที่ยว น่าค้นหาและนี้คือ หลายๆ สถานที่ ที่มหัศจรรย์ที่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริงบนโลกใบนี้"



  Aurora Borealis



เป็นสถานที่สุดประหลาด ที่โดดเด่นที่สุดคือ ปรากฏการณ์ Aurora Borealis หนึ่งในทัศนียภาพแห่งแสงสีที่สวยมหัศจรรย์ราวกับภาพในจินตนาการ แต่สามารถสัมผัสได้ในชีวิตจริง ซึ่งในซีกโลกใต้นั้นก็มีความงามของแสงสีแบบนี้เหมือนกัน เรียกว่า Aurora Australis ทั้งสองปรากฏการณ์นี้เกิดจากการเปลี่ยนเป็นอิออนของไนโตรเจนและออกซิเจนในชั้นบรรยากาศ ไม่ต้องพึ่งความสามารถ 3D!



ออโรรา เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่มีแสงเรืองบนท้องฟ้าในเวลากลางคืน โดยมักจะขึ้นในบริเวณแถบขั้วโลก โดยบางครั้งจะเรียกว่า แสงเหนือ หรือ แสงใต้ ขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิด





ปรากฏการออโรราเป็นตัวอย่างปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่น่าทึงที่สุดที่เกิดขึ้นในอวกาศที่ใกล้พื้นโลก มันอาจปรากฏจากสิ่งจางๆ เป็นวงนิ่ง แล้วระเบิดออกมาเป็นสีต่าง ๆ พุ่งกระจายภายในเวลาไม่กี่วินาที บางครั้งจะปรากฏเหมือนมันจะแตะกับพื้น หรือในเวลาอื่นอาจเห็นมันพุ่งสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่ความจริงแล้ว แสงออโรรานั้นเกิดขึ้นที่ความสูงจากพื้นโลก (altitudes) ประมาณ 100 ถึง 200 กิโลเมตร บริเวณที่อยู่บริเวณบรรยากาศชั้นบนที่อยู่ใกล้กับอวกาศ



   

ดอกซากุระที่ภูเขาฟูจิ ประเทศ ญี่ปุ่น


สถานที่มหัศจรรย์ ที่ไม่น่าเชื่อว่า มีอยู่จริงบนโลกใบนี้




"บนโลกของเรายังมีสถานที่ที่น่าพิศวงอีกมากมายที่น่าท่องเที่ยว น่าค้นหาและนี้คือ หลายๆ สถานที่ ที่มหัศจรรย์ที่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริงบนโลกใบนี้"



ดอกซากุระบาน ณ ภูเขาฟูจิ


ที่ญี่ปุ่นดอกซากุระมักจะบานช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงเมษายนของทุกๆปี ช่วงเวลานี้เองจะเป็นช่วงของเทศกาลดอกซากุระบานที่ใครต่อหลายคนต่างรอคอยให้มาถึงเร็วๆ โดยเฉพาะความงดงามของดอกซากุระที่ภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji) ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น คือ มีความสูงประมาณ 3,776 เมตร (12,388 ฟุต) ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิซึโอะกะ (Shizuoka) และจังหวัดยะมะนะชิ (Yamanashi) ในเขตภูมิภาคจูบุ (Chubu) บนเกาะฮอนชู (Honshu) ของประเทศญี่ปุ่น (Japan) 





ดอกซากุระบานที่ภูเขาฟูจิ


สำหรับช่วงเวลาสำหรับการเที่ยวชมดอกซากุระบานที่ภูเขาไฟฟูจิ ประจำปี 2013 ที่กำลังจะมาถึงนี้ คาดกันว่าดอกซากุระจะเบ่งบานเต็มที่ในทุกๆช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เดือนมีนาคม โดยจุดที่นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมในความงดงามของดอกซากุระที่คุณไม่ควรพลาดไปเยือน คือ บริเวณ "ทะเลสาบคาวาคุจิโกะ " (Kawaguchiko)ทะเลสาบที่อยู่ใกล้ๆภูเขาไฟฟูจิ ที่ถือว่าเป็นอีกแห่งที่สามารถชมซากุระพร้อมกับเห็นฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบได้








 สำหรับจุดชมดอกซากุระบานที่จังหวัดชิซึโอะกะนั้นอยู่ที่ เมืองคะวะซุ (Kawazu) ซึ่งจะเริ่มบานในช่วงระหว่างต้นเดือนกุมภาพันธ์ - ปลายเดือนกุมภาพันธ์ สามารถเดินทางไปชมโดยการขึ้นรถโดยสารประจำทางจากสถานีรถไฟ คะวะซุ (รถไฟด่วนสายอิสึ) 6 นาที โดยดอกซากุระของที่นี่จะมีชื่อเสียงมาก เนื่องจากผลิดอกเร็วที่สุดในเกาะฮอนชู ช่วงเวลาที่ดอกซากุระบานยาวนานถึง 1 เดือน นั่นจึงทำให้มีการจัดเทศกาลชมดอกซากุระนานถึง 1 เดือน ซึ่ง "คะวะซุซากุระ" ของที่นี่จะมีสีชมพูเข้มกว่า "โชเมอิโยชิโนะ" เนื่องจากที่นี่มีน้ำพุร้อนอยู่เป็นจำนวนมาก 







 สุดท้ายคือจุดชมดอกซากุระบานที่ เมืองฟูจิโยชิดะ (Fujiyoshida) จังหวัดยะมะนะชิ ซึ่งจะเริ่มบานในช่วงกลางเดือนเมษายน - ปลายเดือนเมษายน สามารถเดินทางไปชมโดยรถยนต์จากสถานีรถไฟ ฟูจิโยชิดะ (รถไฟด่วนสายฟูจิ) 10 นาที ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้ชมดอกซากุระบนภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่มีซากุระพันธุ์ "ฟูจิซากุระ" ปลูกอยู่ถึง 2 หมื่นต้น "ฟูจิซากุระ" มีอีกชื่อว่า "มาเมะซากุระ" หรือ "โอโตเมะซากุระ" เป็นซากุระที่มีลำต้นและดอกขนาดเล็กดูน่ารัก และจะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกฟูจิซากุระขึ้นในช่วงเวลานี้










Door to Hell ประตูสู่นรก


สถานที่มหัศจรรย์ ที่ไม่น่าเชื่อว่า มีอยู่จริงบนโลกใบนี้




"บนโลกของเรายังมีสถานที่ที่น่าพิศวงอีกมากมายที่น่าท่องเที่ยว น่าค้นหาและนี้คือ หลายๆ สถานที่ ที่มหัศจรรย์ที่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริงบนโลกใบนี้"


  Door to Hell 






 Door to Hell หรือแปลตามตัวว่า ประตูสู่นรก ซึ่งแท้จริงแล้วคือ ปล่องไฟจนาดยักษ์ที่มีการเผาไหม้ตลอดเวลา ตั้งอยู่ที่ เติร์กเมนิสถาน มานานกว่า 40 ปี ถูกค้นพบโดยนักธรณีวิทยา เกิดจากการขุดเจาะหลุมโพรงที่เต็มไปด้วยก๊าซธรรมชาติ และเกิดการทรุดตัวของพื้นดิน เพื่อให้ก๊าซหมดไป ต้องทำการเผาไหม้ แต่เปลวไฟดันคุกรุ่นมาจนถึงปัจจุบัน